โคมไฟไฮเบย์กับค่า Power Factor ที่เหมาะสมควรอยู่ระดับไหนถึงจะดี?

โคมไฟไฮเบย์กับค่า Power Factor ที่เหมาะสมควรอยู่ระดับไหนถึงจะดี

โคมไฟไฮเบย์กับค่า Power Factor ที่เหมาะสมควรอยู่ระดับไหนถึงจะดี?

เมื่อพูดถึงการเลือกโคมไฟไฮเบย์สำหรับโรงงาน คลังสินค้า หรือพื้นที่อุตสาหกรรม หลายคนอาจมองแค่ความสว่าง วัตต์ หรือราคาสินค้าเท่านั้น แต่จริงแล้วหนึ่งในค่าที่มีผลต่อค่าไฟฟ้าอย่างมาก และยังเกี่ยวข้องกับความเสถียรของระบบไฟ คือ ค่า Power Factor (PF) ซึ่งเป็นตัวบอกว่าโคมไฟไฮเบย์ดึงพลังงานจากระบบไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่

สารบัญ

บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจค่า PF อย่างละเอียด และบอกว่าโคมไฟไฮเบย์ค่า PF เท่าไหร่เหมาะที่สุดสำหรับงานอุตสาหกรรม

Power Factor คืออะไร และเกี่ยวข้องกับโคมไฟไฮเบย์อย่างไร

ความหมายของค่า Power Factor (PF)

Power Factor คือค่าที่บอกว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด หากค่า PF สูง แปลว่าพลังงานที่ดึงจากระบบถูกใช้งานจริง ไม่สูญเปล่า แต่หาก PF ต่ำ อุปกรณ์จะกินกระแสมากขึ้น ทำให้ระบบไฟฟ้ารับภาระหนักโดยไม่จำเป็น

กล่าวง่ายๆ คือ
PF สูง = ระบบไฟเสถียร + ค่าไฟลดลง
PF ต่ำ = สูญเสียพลังงาน + ค่าไฟเพิ่มโดยใช่เหตุ

ทำไม PF ถึงสำคัญกับระบบไฟในโรงงาน

ในพื้นที่อุตสาหกรรม โคมไฟไฮเบย์ LED มีจำนวนหลายสิบหรือหลายร้อยดวง หากโคมไฟมี PF ต่ำเพียงเล็กน้อย แต่จำนวนมาก ผลรวมของกระแสที่ระบบต้องรองรับจะสูงจนส่งผลให้หม้อแปลงและเบรกเกอร์ทำงานหนักขึ้น ซึ่งอาจเกิดการโอเวอร์โหลดได้

ค่า Power Factor ที่เหมาะสมสำหรับโคมไฟไฮเบย์ควรอยู่ระดับไหน

ค่า PF ที่ดีควรอยู่ที่ ≥ 0.9

มาตรฐานที่เหมาะสมสำหรับไฟไฮเบย์ที่ใช้ในโรงงาน คือค่า PF ตั้งแต่ 0.9 ขึ้นไป เนื่องจากเป็นระดับที่ช่วยลดการสูญเสียพลังงานและช่วยให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้เสถียร

ผู้ผลิตโคมไฟคุณภาพสูงมักกำหนดค่า PF สูงถึง 0.95 หรือมากกว่า เพื่อรองรับการใช้งานหนักในภาคอุตสาหกรรม

ตารางเปรียบเทียบค่า PF

ค่า PF

ประสิทธิภาพ

ผลกระทบต่อระบบไฟ

เหมาะกับงาน
0.5–0.7 ต่ำ กระแสไหลมากกว่าปกติ ระบบร้อนง่าย ไม่เหมาะกับโรงงาน
0.8–0.89 ปานกลาง ใช้ได้ในงานทั่วไป แต่ระบบโหลดสูงขึ้น คลังสินค้าขนาดเล็ก
≥ 0.9 สูง ประหยัดไฟ เสถียร ไม่ทำให้ระบบหนัก โรงงาน, คลังสินค้า, โซนผลิต

ผลกระทบเมื่อใช้โคมไฟไฮเบย์ที่ค่า PF ต่ำกว่าเกณฑ์

ใช้งบไฟมากขึ้นโดยไม่จำเป็น

โคมไฮเบย์ที่ PF ต่ำจะดึงกระแสไฟมากขึ้นเพื่อสร้างพลังงานที่ใช้งานจริง ทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นในทุกเดือน โดยเฉพาะโรงงานที่เปิดไฟวันละ 10–24 ชั่วโมง

โหลดระบบไฟสูงขึ้นจนเสี่ยงต่อการดับ

PF ต่ำทำให้หม้อแปลงสายส่งและเบรกเกอร์รับภาระมากขึ้น ซึ่งมีโอกาสเกิดปัญหา เช่น

  • เบรกเกอร์ตัด
  • หม้อแปลงร้อนเกิน
  • ไลน์การผลิตหยุดชะงักเสียหายเป็นเงินหลายหมื่นบาท

วิธีตรวจสอบและเลือกโคมไฟไฮเบย์ที่มี Power Factor ดี

1. ตรวจสอบค่าจากสเปกของผู้ผลิต

ก่อนซื้อควรดูสเปกโคมไฟว่า

  • ระบุค่า PF หรือไม่
  • มีใบรับรองมาตรฐานหรือไม่ (เช่น มอก., CE, RoHS)

การเลือกสินค้าที่ระบุค่า PF ชัดเจนช่วยให้คุณมั่นใจว่าโคมไฟไฮเบย์มีคุณภาพมากกว่าการซื้อสินค้าที่ไม่มีข้อมูลทางไฟฟ้าแนบมา

2. เลือกไดร์เวอร์ที่ใช้แบรนด์คุณภาพ

ค่า PF สูงมักมาพร้อมไดร์เวอร์คุณภาพ เช่น Meanwell, Inventronics, หรือไดร์เวอร์ที่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม เพราะเป็นส่วนที่ช่วยจัดการไฟฟ้าให้เสถียร

3. ข้อควรตรวจสอบก่อนตัดสินใจซื้อโคมไฮเบย์

  • ค่า PF ≥ 0.9
  • ค่า THD ต่ำ
  • ใช้ชิป LED คุณภาพ
  • ระบบระบายความร้อนดี
  • มีการรับประกันอย่างน้อย 2–5 ปี

สรุป: ค่า PF สูงคือหัวใจของโคมไฟไฮเบย์คุณภาพ

การเลือกโคมไฟไฮเบย์ที่มีค่า PF สูงไม่ใช่แค่ช่วยประหยัดค่าไฟเท่านั้น แต่ยังช่วยลดภาระระบบไฟในโรงงาน ลดความเสี่ยงต่อการโอเวอร์โหลด เพิ่มความเสถียรในการใช้งานระยะยาว และช่วยยืดอายุของอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งระบบ

หากกำลังมองหาโคมไฟไฮเบย์ที่ให้ค่า PF ≥ 0.95 แนะนำให้เลือกสินค้าจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้และมีใบรับรองครบถ้วน เพื่อให้ได้ความคุ้มค่ามากที่สุดในระยะยาว

 

เพราะแสงสว่างเป็นสิ่งสำคัญในทุกพื้นที่ของชีวิต RICHEST SUPPLY ศูนย์รวมผลิตภัณฑ์แสงสว่างที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟถนน โคมไฮเบย์ สปอร์ตไลท์ หลอดไฟ LED โซล่าเซลล์ และเสาไฟ สนใจสอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ LINE Official Account: @richestsupply หรือ Facebook: https://www.facebook.com/enrichled